คืน10เมษา ณ ราชวิถี
บทความนี้ไม่อยากซ้ำเติมผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต หรือสร้างความเคียดแค้นแก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมากขึ้น แต่คงบอกเล่าเรื่องราวที่ได้ยิน-ประสบพบมา โดยพยายามไม่ใส่ความคิดเห็นด้านการเมืองของตัวเองลงไป
เหตุการณ์เมื่อคืน 10เมษายน2553 ที่อาจทำให้หลายคนนอนไม่หลับ และเป็นกังวลกันมาก…
ผู้ชุมนุมหลายสิบที่ได้รับบาดเจ็บ เข้ามารับการรักษา บ้างเจ็บเล็กฟกช้ำดำเขียว บ้างหัวแตก บ้างเป็นบาดแผลเปิดจากสะเก็ดระเบิด ในจำนวนที่ว่ามานั้น มีบาดเจ็บหนักเข้าไอซียู และมีผู้เสียชีวิต
ผู้เสียชีวิตหนึ่งราย พบรูตรงกลางอกขนาดใหญ่ สิ้นใจขณะมาโรงพยาบาล
อีกรายหนึ่งที่บาดเจ็บหนัก อาจารย์ศัลยแพทย์ต้องมาทำงานกลางดึกเพื่อกู้ชีวิต เพราะโดนวัตถุขนาดเล็กเข้าทะลุอก เข้าหัวใจ ทำให้เลือดออกในถุงหุ้มหัวใจจำนวนมาก ความดันโลหิตตก ใกล้สิ้นชีวิต ผู้ป่วยได้รับการเจาะอก นวดหัวใจ และเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉิน
แพทย์จำนวนมากถูกตามมาช่วยกันกลางดึก…
เช้านี้ ในฐานะนักเรียนแพทย์ปีหก ซึ่งไม่ค่อยรู้อิโหน่อิเหน่อะไร ไปยืนทำแผลผู้ป่วยเตียงข้างๆ เห็นอาจารย์มาดูแลผู้ป่วยรายที่ว่ามานั้น ท่านกล่าวว่า
“คุณป้า ทำไมจึงไปร่วมชุมนุมกับเขาล่ะ? เขาจะโค่นในหลวงรู้ไหม โดนเขาหลอกหรือเปล่า?”
“แกนนำเขาได้มาช่วยคุณป้าหรือเปล่า เวลาบาดเจ็บเกือบตายนี่ มีแต่พวกหมอนี่แหละต้องช่วยคุณป้า”
“ออกไปไม่ต้องบอกว่าโดนทหารยิงน่ะ เพราะที่หมอล้วงเข้าไปเอาออกมาน่ะ สะเก็ดระเบิดที่ปากันเองทั้งนั้น”
“หมอและทีมแพทย์ที่ช่วยเหลือคุณป้าทุกคนเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนะ”
Sirichai
ขอชื่นชมในน้ำใจของอาจารย์จริงๆครับ ถึงจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการกระทำของใคร แต่เมื่อมีคนเจ็บ ในฐานะที่เป็นแพทย์ก็ยังสามารถวางตัวเป็นกลาง ปฏิบัตืหน้าที่อย่างดี่ที่สุดได้ โดยไม่เลือกไปตามอคติที่มีอยู่ ถ้าผู้ใหญ่ในสังคมเรา รู้จักแยกแยะสิ่งใดควรหรือไม่ควร และทำไปตามแนวที่ควรทำ ไม่เอาอคติเป็นที่ตั้ง สังคมไม่เฉพาะในหมู่ข้าราชการเท่านั้น หากแต่โดยรวมจะน่าอยู่กว่านี้ ขอเป็นกำลังใจให้คนที่คิดดี ตั้งใจทำดีกันต่อไปครับ