ความรักของข้าพเจ้า

ความรักของข้าพเจ้า

เวลาพูดถึงอาชีพหมอแล้ว คนมักมองกันว่า พวกหมอเป็นกลุ่มคนที่เคร่งเครียด จริงจังกับชีวิต ใส่แว่น อ่านหนังสือมาก เรียนหนัก วันๆไม่มีเวลาว่างทำอะไรสักเท่าไร

ข้าพเจ้าเป็นนักศึกษาแพทย์ ผู้ซึ่งต่อไปจะจบเป็นหมอ แม้คนจะว่ากันว่าข้าพเจ้าเป็นคนจริงจังกับชีวิตมากไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่เหมือนกับที่เขาว่ากันสักเท่าไร

ตัวข้าพเจ้าทำกิจกรรมหลายอย่าง และเป็นนักกิจกรรมมากมายกว่าการเรียนเสียอีก แต่ก็ไม่ทำให้การเรียนเสียมากมายนะครับ รวมถึงมีเรื่องผ่อนคลาย และยังเล่นเกมคอมพิวเตอร์เยอะอีกต่างหาก

วันนี้จึงจะมาเขียนเรื่องอื่นที่ดูไม่เครียด วิชาการ หรือการเมืองเกินไป

วันนี้ไม่ได้มาเขียนเกี่ยวกับเรื่องกิจกรรม ความสามารถพิเศษของตนเองหรอกครับ แต่จะมาเขียนเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นปัญหาสำหรับคนส่วนใหญ่ในโลกนี้

เรื่อง ความรัก” นั่นเองครับ

และในฐานะที่เกี่ยวกับประสบการณ์ตรง จึงเป็นที่มาของชื่อเรื่องว่า ความรักของข้าพเจ้า” นั่นเองครับ และเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเห็นหมอจะพูดกันเท่าไร ที่เห็นหมอพูดอยู่มากตามรายการทีวี มักเป็นเรื่องเพศสัมพันธ์กันเสียมากกว่า (ซึ่งไม่ใช่ความรักเสียทั้งหมด)

I-love-you-much-Abstract-01

ข้าพเจ้าเอง เคยมีแฟนหลายคน ต่างกรรมต่างวาระ บ้างชอบพอกันไม่กี่เดือน บ้างชอบกันเป็นปี บ้างเป็นหลายปี แต่สุดท้าย ความสัมพันธ์มักสิ้นสุดลง เพราะถูกทิ้ง และกว่าครึ่งหนึ่งคงเป็นเพราะว่าห่างไกลกัน

ก็คงอย่างที่เขาว่า รักแท้แพ้ใกล้ชิด” กระมังครับ

พอมาเรียนหมอนี้นั้น ตอนแรกก็ไม่ค่อยได้คิดเกี่ยวกับเรื่องความรักนี่สักเท่าไร (จริงๆแล้ว ตั้งแต่วัยละอ่อนมานั้น ก็ไม่เคยคิดหรอก มักจะมีแฟนโดยไม่ได้ตั้งใจ)

เห็นบรรดาอาจารย์หมอ หรือคุณหมอรุ่นใหญ่ทั้งหลาย มักจะมีแฟนเป็นหมอด้วยกัน หรือมีแฟนเป็นพยาบาล ส่วนตัวก็เลยคิดว่า ไว้เรียนจบค่อยว่ากันถึงอนาคตด้านความรัก ตอนนี้ความเรียนและการงานต้องมาก่อน

เขาว่ากันว่า ความรักเปรียบเสมือนผีเสื้อ” ยิ่งไขว่คว้า ยิ่งหาไม่เจอ แต่หากอยู่เฉยๆ แล้ว วันหนึ่งผีเสื้อก็จะเข้ามาเกาะเราเอง ก็เลยเพราะความไม่ตั้งใจนั้นแหละ ก็ได้ประสบพบอีก มีแฟนอีกคนหนึ่ง

น่าสงสารบรรดาเหยื่อผู้หลงผิดมาหาข้าพเจ้าจริงๆ (ฮา)

แต่สุดท้าย ครั้งล่าสุด คบกันเป็นปีๆ แต่ข้าพเจ้าก็ถูกทิ้งเช่นกันครับ

ข้าพเจ้าเศร้าไปเป็นครึ่งปี ช่วงแรกๆทรมานเหมือนตายทั้งเป็น เหมือนคู่ชีวิตเสียชีวิตไป ถึงขนาดนั้น

คุณแม่กลัวจะฆ่าตัวตายก็มาเยี่ยม พาอาจารย์นักจิตวิทยามาพูดคุย กลายเป็นภารกิจของทั้งครอบครัว และผู้ใกล้ชิด วุ่นวายกันข้ามประเทศ ต้องเดินทางกันมาจากทั่วสารทิศ ช่วยเหลือนายชเนษฎ์ ด้วยความรักนั่นเอง

คุณอาช่วยเหลือ อาจารย์ช่วยเหลือ น้องช่วยเหลือ เพื่อนสนิท เพื่อนแท้ ช่วยเหลือ ฯลฯ

หลังจากครึ่งปีที่เกือบจะเป็นบ้าไป สักพัก ข้าพเจ้าก็ตั้งสติได้

หันมามองตนเอง จึงรู้จักคำๆนี้มากขึ้น คำว่า ความรัก”

ไม่กี่วันมานี้ เผอิญได้ไปเข้าค่ายจริยธรรมที่เมืองกาญจนบุรี ได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น คิดอะไรมากขึ้น ก็ได้ค้นพบว่า

ข้าพเจ้ามีความรัก

ถ้าเรื่องผู้หญิงแล้วละก็ ข้าพเจ้ายังรักใครบางคนอยู่มากครับ แม้ว่าทุกวันนี้จะไม่ได้เป็นแฟนกัน

แต่ในจิตใจลึกๆแล้วก็พบว่า มันเกิดความรู้สึกที่ไม่เคยมีให้กับใคร แม้จะเลิกกันจะเป็นปีแล้ว ลึกๆก็ยังฝันถึงอยู่ คิดถึง

รำลึกถึงความงดงาม ความดี ที่มิใช่ความหลงเพียงรูปลักษณ์ภายนอก หากแต่เป็นการศึกษาเรียนรู้ เข้าใจกัน มีความคิด และการกระทำอันดี มีคุณค่าและประโยชน์ต่อสังคม

โอ นี่หรือคือ ความรัก

ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก

สุดจะหักห้ามจิตจะคิดไฉน

ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป

แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืนฯ

(ขอกราบขอยืมท่านสุนทรภู่ มาจากนิราศภูเขาทอง ครับ)

ในกรณีที่ยกตัวอย่างมานี้ แม้จะเป็นรักข้างเดียว ที่ไม่มีวันบรรจบ หากแต่ความงามมิใช่วัดกันด้วยการบรรจบ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรามองเองต่างหากนะครับ

เพราะจริงๆแล้ว ตอนนี้ ความรักของข้าพเจ้าก็ยังงดงามอยู่ครับ

ข้าพเจ้ายังมีความรักที่สมหวัง

ความรักที่สมหวัง สำหรับข้าพเจ้า ก็คือ ครอบครัวของข้าพเจ้าที่อบอุ่น คุณพ่อคุณแม่ คุณย่า น้องๆ และญาติพี่น้อง ที่รัก เข้าใจกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันอยู่เสมอ

ความรักเอย คำที่ใช้กันพร่ำเพร่อบนโลกใบนี้

ในขณะที่คู่รัก หรือสามีภรรยา กลับเลิกกันไม่เว้นแต่ละวัน ครอบครัวแตกแยก ลูกขาดพ่อแม่ ขาดความอบอุ่น

ขณะที่วัยรุ่น นักศึกษาหลายคน คิดสั้นเพราะอกหัก บ้างกระโดดตึก บ้างยิงกัน บ้างทำร้ายกัน ทำร้ายตนเองจนลืมไปว่าทำให้คนที่รักเราจริงๆเสียใจ

ท่ามกลางความรักที่สิ้นคิดทั้งหลายนั้น หากหันกลับมามอง ยังมีความรักที่อยู่เหนือกว่านั้นอีกมากมาย ความรักที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน

ความรักของคุณพ่อคุณแม่ พี่น้อง ความรักของเพื่อนแท้ ที่อยู่กับเรายามยาก ยามทุกข์

เห็นไหมล่ะครับว่า ผีเสื้อได้มาเกาะที่ตัวเราอยู่มากมาย แต่เรามัวแต่หลงไหลในผีเสื้อตัวเดียว พยายามวิ่งไขว่คว้า จนลืมไปว่ามีคนอีกหลายๆคนที่รักเรา

ข้าพเจ้าซาบซึ้ง และขอขอบคุณทุกชีวิต ที่เคยเกื้อกูลข้าพเจ้ามาบนโลกใบนี้ นี่คือความรักที่หลายคนเคยมอบให้เราโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

สำหรับการเรียนที่เห็นได้ชัด คือ อาจารย์ผู้สอนที่เมตตากรุณาสอนสั่ง

สำหรับการทำงาน คือผู้ร่วมงานที่ดี ที่มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ต่อกัน

สำหรับการสังคม คือผู้คนที่ดีกับเรา เป็นต้น

หากได้อ่านบทความนี้แล้ว สำหรับหลายๆคนที่ทุกข์ใจกับเรื่องความรัก ลองเปลี่ยนวิธีคิดดูนะครับ ข้าพเจ้าเชื่อว่ามีคนที่รักเราอยู่มาก ที่เราลืมมองไป

และจึงเข้ากับคำที่เขาว่า “จงรักคนที่เขารักเรา” รักครอบครัว รักพี่น้อง ญาติสนิท มิตรสหาย เพื่อนฝูง

ชีวิตก็เป็นสุขมากแล้วล่ะครับ ชีวิตหนึ่งที่มีความรัก

ทิ้งท้าย สิ่งที่ข้าพเจ้าสงสัยนิดเดียวเท่านั้น คือ ข้าพเจ้าแปลกใจมากกับผลการวิจัยที่เคยได้ยินมาว่า

กันง่ายๆว่า ผู้หญิงมีให้เลือกมากกว่าผู้ชาย ถึง แปดเท่า ผู้ชายน่าจะมีสิทธิ์และโอกาสมากกว่า

แต่ทำไม ข้าพเจ้าถึงยังอกหัก ถูกทิ้งโดยตลอดครับนี่ ฮ่า

ปล. อ่อ จริงๆแล้ว เดี๋ยวนี้นักศึกษาแพทย์มักเป็นเพศทางเลือกกันมากขึ้น แต่ในบทความนี้ อดีตแฟนของข้าพเจ้าก็ยังเป็นผู้หญิงนะครับ ฮา

3 Comments

  1. Max

    กูไม่เคยไขว่คว้าแต่ก็ไม่เห็นจะมาสักที~ ไม่นับญาติๆ กูนะ

  2. PiiE

    อ่านแล้วรู้สึกงดงามๆ ^^
    รักคนที่เค้ารักเรา อ่ะ ดี
    แต่ถ้า รักคนที่เค้ารักเรา แถมยังรักคนที่เค้าไม่รักเราด้วย นี่สิ ดีที่สุด ^^ 

  3. งุ้งงิ้ง

    ก่อนหน้านี้คอมพี่ไม่ค่อยดี เพิ่งเอาไปลงwindowใหม่เลยกลับมาสู้spaceอีกครั้ง
     
    บทความตอนนี้แอบโดนใจพี่สุดๆอะน้องกล้า
     
    สู้ๆนะคับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *