• About (Eng)
  • Introduction to Bloggla.com
  • Multimedia
  • ชเนษฎ์ ศรีสุโข เว็บไซต์ส่วนตัว หมอ ต้นกล้า Chanesd Srisukho
  • รู้จักคุณหมอชเนษฎ์
    • Education & Work
    • การศึกษาและงาน
    • เกียรติประวัติและกิจกรรม

MD. Dr. Chanesd Srisukho นายแพทย์ ชเนษฎ์ ศรีสุโข หมอกล้า Dermatology

ประวัติ นายแพทย์ ชเนษฎ์ ศรีสุโข

มหิดลวิทยานุสรณ์

เด็กอัจฉริยะมากควรเรียนหมอหรือไม่

May 30, 2012 by Gla Leave a Comment

http://issuu.com/demo-crazy/docs/volume26

บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ หน้า 25 วารสาร DemoCrazy ปฏิวัติความคิด ติดอาวุธปัญญา

เด็กอัจฉริยะมาก ควรเรียนหมอหรือไม่?

Chanesd Srisukho

ภาพประกอบบทความวารสาร DemoCrazy เล่ม 26

ชเนษฎ์ ศรีสุโข chanesd@gmail.com MWIT รุ่น 12

ได้รับเชิญจากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ให้พูดเกี่ยวกับจุดอ่อนของการเรียนหมอ และชีวิตหมอ พูดให้น้องๆเด็กนักเรียนอัจฉริยะมากที่มาจากการสอบคัดเลือกทั่วประเทศ เป็นนักเรียนทุนรุ่นละ 240 คน เปี่ยมอุดมการณ์สืบทอดมาตั้งแต่สมัยบอร์ดบริหาร ชื่อ ศ.ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร และ ดร.ธงชัย ชิวปรีชา นักเรียนเหล่านี้มีความสามารถหลากหลายด้าน พิสูจน์จากรางวัลในเวทีโอลิมปิกวิชาการโลก และเวทีการสอบคัดเลือกต่างๆของประเทศไทย นอกจากนี้ โรงเรียน ไม่ได้ส่งเสริมให้น้องๆแค่เอาแต่เรียนอย่างเดียว มีการส่งเสริมการทำกิจกรรมเพื่อสังคม การบำเพ็ญประโยชน์ กีฬา ดนตรี ฯลฯ ทำให้ น้องๆมีจิตสำนึกในการทดแทนคุณแผ่นดินไทย จบออกมาหลายคนก็เป็นผู้นำทำกิจกรรมดีดีในสังคมที่เขาอยู่

เด็กโรงเรียนนี้ หลายคนถูกผู้ปกครองโน้มน้าวให้เรียนหมอโดยที่อาจไม่ได้ชอบ ผมเลยอยากเล่าอะไรให้ฟัง…

[คลิกเพื่ออ่านต่อ Read more…]

Posted in: บทความ, มหิดลวิทยานุสรณ์, วงการแพทย์, วิชาการ Tagged: MWIT, การศึกษา, มหิดล, มหิดลวิทยานุสรณ์, มหิดลวิทย์, อัจฉริยะ, เด็ก, แพทย์, โรงเรียน

เมื่อมหิดลวิทย์ถูกเผา

June 7, 2010 by Gla 2 Comments

เมื่อมหิดลวิทย์ถูกเผา

ชเนษฎ์ ศรีสุโข มหิดลวิทย์รุ่น12 bloggla.com

ฉันรักมหิดลวิทย์ เพราะมหิดลวิทย์สอนให้ฉันรักวิทยาศาสตร์ และรักษ์ประเทศไทย

โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ก่อตั้งมายี่สิบปี โดยเฉพาะในช่วงไม่ถึงสิบปีหลังที่ทีมคณาจารย์และผู้บริหารในวงการศึกษาไทยได้แท็กทีมมาบริหารจัดการ(นำโดย ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร, ดร.ธงชัย ชิวปรีชา, ดร.โกศล เพ็ชร์สุวรรณ์ ฯลฯ)ยกระดับโรงเรียนเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ องค์กรมหาชนที่รับการสนับสนุนจากรัฐบาลตลอดจนพระมหากรุณาธิคุณ

[คลิกเพื่ออ่านต่อ Read more…]

Posted in: บทความ, มหิดลวิทยานุสรณ์ Tagged: MWIT, ดับเพลิง, มหิดลวิทยานุสรณ์, อุดมการณ์, เผาโรงเรียน, เพนกวิน, ไฟไหม้

ข่าวนายอภิสิทธิ์ กล่าวถึง MWIT

January 30, 2009 by Gla 6 Comments

 

หวังว่าท่านอาจารย์กรรมการบริหาร รวมถึง ท่านอาจารย์โกศล เพ็ชรสุวรรณ์, ท่านอาจารย์กฤษณพงศ์ กีรติกร, ท่านอาจารย์ธงชัย ชิวปรีชา จะล้วนได้ทราบข่าวนี้กันนะครับ

“อภิสิทธิ์” ยก “มหิดลวิทย์” โรงเรียนตัวอย่างส่งเสริมคนเก่งวิทย์แต่วัยเยาว์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

29 มกราคม 2552 11:51 น.

http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000010525


“อภิสิทธิ์” เปิดงาน “118 ปีกรมวิทย์บริการ” ยก “มหิดลวิทย์” ตัวอย่างรูปธรรมในการส่งเสริมคนเก่งวิทย์แต่วัยเยาว์ แต่ยังต้องมีการสานต่อเพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนหันมาทุ่มเทเพื่องานวิทยาศาสตร์ รับโครงสร้างพื้นฐานยังไม่เอื้อให้คนเก่งหันมาทำงานด้านนี้ 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงาน “118 ปี ศาลาแยกธาตุ-กรมวิทยาศาสตร์บริการ” เมื่อวันที่ 29 พ.ย.52 ณ อาคารสถานศึกษาเคมีปฏิบัติ กรมวิทยาศาสตร์บริการ พร้อมกล่าวเปิดงานว่า การวางแผนพัฒนาประเทศจำเป็นต้องเข้าใจสภาวะแวดล้อมของโลกเพื่อปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งที่ผ่านมาไทยก็ทำได้ดี แต่ในด้านขีดความสามารถวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยมักถูกประเมินให้อยู่ในระดับต่ำอยู่ ซึ่งแม้เรื่องดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ถ้าปล่อยให้สะสมยาวนานก็จะบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันระยะยาว

“เช่นเดียวกับคำพูดของ ดร.ตั้ว พลานุกรม อธิบดีคนแรกของกรมวิทยาศาสตร์บริการ ที่กล่าวไว้ว่า ชาติจะเจริญโดยไม่มีวิทยาศาสตร์เป็นหลักไม่ได้ ซึ่งการจะให้ประเทศแข่งขันอย่างยั่งยืนต้องผลักดันการวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และระดมความรู้ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ งานวิจัย เศรษฐกิจ ภาคเอกชน ภาคประชาชน สนับสนุนนโยบายด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน” นายอภิสิทธิ์กล่าวภายในงานซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ได้เข้าร่วมด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แม้ปัจจุบันเราตื่นตัวทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น แต่ไทยก็ยังถูกประเมินความสามารถด้านนี้ต่ำ จึงมีความตั้งใจที่จะยุติปัญหาดังกล่าว โดยได้พูดคุยกับ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถึงการผลักดันนโนบายด้านวิทยาศาสตร์ และได้ร่างนโยบายทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วยตัวเอง โดยมีแนวคิดสำคัญๆ ดังนี้

ข้อแรกคือ การส่งเสริมให้คนในสังคมมีฐานความคิดวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ ฐานความคิดของสังคมยังขาดความเป็นวิทยาศาสตร์ โดยเราเห็นได้ในปรากฏการณ์และในตามข่าวต่างๆ ซึ่งแก้ได้โดยเริ่มจากการศึกษา โรงเรียน การฝึกอบรม และผ่านการสื่อสารของสื่อมวลชน ที่จะช่วยสร้างให้คนในสังคมมีฐานความคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์ได้

“ถัดมาคือการส่งเสริมความเป็นเลิศในความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งที่ผ่านมาเราพยายามผลักดันเรื่องการขยายโอกาสและความเสมอภาค แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการผลักดันด้านนวัตกรรมต้องส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษ ยกตัวอย่างโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ซึ่งผมมีส่วนร่วมในการผลักดัน เป็นรูปธรรมของการแสวงหาคนด้านวิทยาศาสตร์ในวัยเยาว์มาส่งเสริม แต่ยังต้องสานต่อเพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนตัดสินใจมาทุ่มเทเพื่องานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานของเรายังไม่เอื้อให้คนเก่งมาทำงานด้านนี้” นายอภิสิทธิ์ระบุ

อีกข้อคือการวิจัยและพัฒนาที่นำไปสู่การเพิ่มมูลค่า ซึ่งปัจจุบันเกิดกระบวนการที่เชื่อมโยงงานวิจัยและพัฒนาระหว่างนักคิดนักวิจัยและภาคเอกชนยังเกิดขึ้นน้อย โดยเรามีงานวิจัยและพัฒนาจำนวนมากแต่ไม่ได้นำไปต่อยอดสู่ภาคเอกชน ขณะเดียวกัน ภาคอุตสาหกรรมก็มีโจทย์ที่ต้องการคำตอบจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีคนหาคำตอบให้ จึงต้องผลักดันให้
เกิดความเชื่อมโยงของทั้ง 2 กลุ่ม นอกจากนี้การแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันของไทยยังขาดการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญหา จึงเป็นปัญหาด้านแรงจูงใจให้คนหันมาวิจัยและพัฒนา จึงต้องมีการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นและคุ้มครองการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ

“หากทำได้จะทำให้เกิดแรงจูงใจนักคิดที่มีจำนวนมาก และผลักดันให้วิทยาศาสตร์เป็นรากฐานของประเทศ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ด้าน ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงการสนองนโยบายด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีว่า ก่อนหน้านี้ได้เผยถึงนโยบายของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ไปแล้วในช่วงรับตำแหน่งใหม่ๆ การผลักดันในช่วงต้นๆ คือ การผลักดันผลงานวิจัยสู่ชุมชน โดยต้องเป็นงานที่ทำได้เร็วและอยู่ระหว่างการผลักดัน ทั้งนี้ มีโครงการสร้างหมู่บ้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต้นแบบ โดยภายในเดือนนี้จะได้คัดเลือกหมู่บ้าน 1 แห่งขึ้นมาเป็นต้นแบบก่อนขยายเป็น 9 หมู่บ้าน

“เราทำ 1 หมู่บ้านก่อนเพื่อเป็นการก้าวอย่างเข้มแข็งและมั่นคง โดยอาจนำโรงไฟฟ้าชีวมวลลงไปให้คนในหมู่บ้านได้มีไฟฟ้าใช้ในราคาถูก เมื่อเหลือก็ขายเข้ากริดการไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะจัดเวทีเชื่อมโยงนักวิทย์กับภาคเอกชน เพื่อดูว่าภาคเอกชนมีความต้องการอย่างไร และนักวิทย์ก็จะเสนอว่ามีงานวิจัยอะไรบ้างที่จะตอบสนองแก่ภาคเอกชนได้” ดร.คุณหญิงกัลยากล่าว

สำหรับงาน “118 ปี ศาลาแยกธาตุ-กรมวิทยาศาสตร์บริการ” จัดขึ้นในโอกาสคล้ายวันสถาปนากรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยจัดระหว่างวันที่ 29-31 ม.ค.52 ณ กรมวิทยาศาสตร์บริการ ภายในงานมีนิทรรศการ การสัมมนาเชิงวิชาการ การบรรยายและการเสวนา อาทิ เสวนาเรื่อง “ติดปีกนักวิเคราะห์ สู่โลกอุตสาหกรรม” ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “วิทยาศาสตร์เป็นรากฐานแห่งการก้าวหน้าของประชาชาติ” โดย ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการรับปรึกษาการรับสินเชื่อเพื่อการลงทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME Bank)

Posted in: ข่าว, มหิดลวิทยานุสรณ์ Tagged: มหิดลวิทยานุสรณ์, วิทยาศาสตร์, อภิสิทธิ์, เวชชาชีวะ, โรงเรียน, ไทย

อุดมการณ์ ความฝัน มหิดลวิทย์ฯ และ HOME COMING DAYS

May 8, 2008 by Gla 7 Comments

อุดมการณ์ ความฝัน มหิดลวิทย์ฯ และ HOME COMING DAYS

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

สวัสดีครับ เพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง นักเรียนเก่าโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ทุกท่าน

ผมชื่อ ชเนษฎ์ ศรีสุโข (กล้า) เป็นนักเรียนเก่าโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ รุ่นที่12

คิดว่าทุกท่านที่ได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ยังคงยึดมั่นในความเป็นโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ความเป็นสถาบันของพวกเรา ที่ท่าน ดร.ธงชัย ชิวปรีชา ผู้ก่อตั้ง ได้ปลูกฝังอุดมการณ์ที่จะสร้างสรรค์ประเทศชาติให้พัฒนา นำพาความเจริญก้าวหน้า ความสุขมาสู่ประเทศชาติ สังคม ประชาชน โดยมีกระบวนการความคิดทางด้านวิทยาศาสตร์นำหน้า

รวมทั้งสืบสานเจตนารมณ์ ที่หวังให้พวกเราได้ร่วมกันสร้างประโยชน์ ตอบแทนแผ่นดินในอนาคต ทั้งในด้านการศึกษา, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, งานวิจัย, Technologies Made by Thai, สิทธิบัตร ฯลฯ และนอกเหนือจากด้านวิทยาศาสตร์แล้ว ยังมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับการแก้ไขปัญหาระดับมหภาคของประเทศทุกภาคส่วน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ ปากท้องประชาชน ด้านสังคม ด้านสุขภาพ ฯลฯ โดยมีความร่วมมือกัน ไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ทุกวันนี้ ผมคิดว่าทุกท่านกำลังทำอะไรเพื่อประโยชน์ของสังคมเท่าที่ทำได้ ในส่วนหน้าที่ภาระการงานของแต่ละท่านอยู่ บางท่านอาจเรียนทางด้านสาธารณสุข บางท่านอาจเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์ บางท่านไปทางเศรษฐศาสตร์ ฯลฯ และเหนืออื่นใด ผู้ที่เสียสละเป็นอย่างมากในการเรียนต่อด้านวิทยาศาสตร์ ทั้งในและนอกประเทศ ทั้งหมดนี้ล้วนมีความสำคัญไม่แพ้กัน ทุกท่านมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศชาติอย่างขาดไม่ได้

ผมจึงเขียนจดหมายฉบับนี้ เน้นย้ำถึงความเป็นสถาบันของเรา ที่ควรรวมพลังสามัคคีกัน เพื่อทำการใหญ่ในอนาคต และขอแจ้งข่าวอันดี ถึงโอกาสในการที่จะได้กลับมารวมตัวกัน แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วันก็ยังดี นั่นคือ Home Coming Days

ปีนี้ โรงเรียนของเราจะมีการจัดงาน Home Coming Days เหมือนในทุกปีที่ผ่านมา เป็นงานคืนสู่เหย้า จะมีการเชิญชวนนักเรียนเก่าทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นที่1 จนถึงรุ่นที่เพิ่งจบ (รุ่น15) ให้กลับโรงเรียน เพื่อไปพบปะพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ความเป็นไปในชีวิตที่ผ่านมา ประสบการณ์ในสาขาวิชาชีพต่างๆ และอุดมการณ์ของโรงเรียนที่ไม่เสื่อมคลาย รวมทั้งการนำเสนอผลงานนักเรียนเก่า การเยี่ยมเยียนนักเรียนปัจจุบัน

ในส่วนของผมเอง ปีนี้ผมคิดว่าจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อโรงเรียนมากขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง คือ การกลับไปบรรยายให้นักเรียนปัจจุบันฟัง หัวข้อเรื่อง “อุดมการณ์ ความฝัน มหิดลวิทย์ฯ กับสภาพความเป็นจริงของประเทศไทย”

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2551 ผมทำหนังสือกราบเรียนท่านผู้อำนวยการฯ ขออาสาตัวในส่วนการบรรยายครั้งนี้ หลังจากนั้นได้ร่วมปรึกษาหารือกับเพื่อนๆที่เรียนในหลายสาขาวิชา หลายประเทศ พบว่ามีความเห็นพ้องต้องกัน

หลังจากท่านผู้อำนวยการได้รับหนังสือกราบเรียนฯนี้ ท่านได้เห็นความสำคัญ และให้ความเมตตากับผมมาก วันนี้(8พค51) ท่านได้ให้เกียรติเชิญผมเดินทางไปโรงเรียนเพื่อไปพูดคุยกับท่าน ถึงเรื่องการบรรยาย รวมถึงกำหนดการณ์ Home Coming Days ในปีนี้

หลังจากพูดคุยกับท่านร่วมหนึ่งชั่วโมง ได้ข้อสรุปเบื้องต้น ถึงเรื่องที่จะบรรยาย และ กำหนดการณ์ของวันบรรยาย คือ อยากให้จัดงาน Home Coming Days ขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2551 จนถึง วันเสาร์ที่ 5กรกฎาคม 2551 โดย ในวันพฤหัสบดี กับศุกร์นั้น จะเริ่มจัดตั้งแต่เย็น ประมาณเวลาคร่าวๆ คือ 18:00น -22:00น และวันเสาร์ เต็มวัน ตั้งแต่ 8:30น-17:30น การบรรยายของผมน่าจะอยู่ในวันแรกครับ

สำหรับกำหนดการ รายละเอียดเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการนั้น คิดว่าหลังจากผ่านการพูดคุยประชุมอีกหลายครั้ง ของนักเรียนเก่าผู้เกี่ยวข้องและอาจารย์ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานนี้-อ.วชิรทาน แล้ว พวกท่านเหล่านี้จะมีตารางประชาสัมพันธ์ให้ทุกท่านทราบอีกทีหนึ่งครับ

กลับมาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวท่านผู้อำนวยการนะครับ สุขภาพท่านยังแข็งแรงดีเมื่อเปรียบเทียบกับอายุ ยิ้มแย้มแจ่มใส ท่านยังมีความรัก ความเป็นห่วงใยในนักเรียนเก่าอยู่เสมอ แม้ว่าท่านใกล้จะเกษียณแล้ว กล่าวคือใกล้สิ้นสุดวาระการทำงานในเดือนมีนาคม 2552 ท่านมิได้ท้อถอยหรือหมดแรง ท่านก็ทำงานอย่างเต็มที่ มุ่งมั่น ขยันขันแข็ง เพื่อโรงเรียนและเพื่ออุดมการณ์ เหมือนอย่างเคยมาโดยตลอด โรงเรียนพวกเราทุกวันนี้เจริญเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ในวงการศึกษาของไทย เป็นโรงเรียนนำร่องระบบการศึกษาโรงเรียนทั่วประเทศ และนำพาไปสู่การพัฒนาขับเคลื่อนประเทศด้วยหัวรถจักรวิทยาศาสตร์

ท่านผู้อำนวยการมีความภาคภูมิใจในตัวนักเรียนเก่าเป็นอย่างมาก รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะแสดงถึงความสุขที่เปี่ยมล้นในการได้เห็นพวกเราแต่ละคน ประสบความสำเร็จในการศึกษาและอาชีพการงาน เป็นคนดี มีความสามารถ เพียบพร้อมด้วยจริยธรรม คุณธรรม ที่จะสร้างสรรค์สังคมในอนาคต

ท่านยังฝากความหวังว่าในอนาคตอีกยี่สิบสามสิบปี จะอยู่ได้เห็น พวกเรานักเรียนเก่า กลับไปช่วยเหลือโรงเรียน สืบทอดเจตนารมณ์แข็งแกร่ง ทั้งในฐานะผู้อำนวยการ ทีมงานผู้บริหารโรงเรียน และคณาจารย์ครับ

พร้อมกันนี้ ท่านผู้อำนวยการยังได้ฝากฝังถึงการช่วยกันกลับมาให้รายละเอียดข้อมูลนักเรียนเก่า กับทางเว็บโรงเรียน เพื่อติดตามความก้าวหน้าของนักเรียนเก่าแต่ละคนครับ

สุดท้ายนี้ ขอกราบขอบพระคุณ ท่านผู้อำนวยการธงชัย ชิวปรีชา และ อาจารย์วชิรทาน รวมถึง เพื่อน พี่ น้อง ผู้เกี่ยวข้อง เป็นอย่างสูง

ทางโรงเรียน คณาจารย์ และนักเรียนปัจจุบัน ยืนยันมาว่า

“ยินดีต้อนรับนักเรียนเก่าทุกท่านด้วยไมตรีจิตครับ”

ชเนษฎ์ ศรีสุโข
กล้า มหิดลวิทย์ฯ รุ่น 12
bloggla.com


หนังสือเรียนท่านผู้อำนวยการ
โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์

วันที่ 1 พฤษภาคม 2551

กราบเรียน ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์

เรื่อง โปรดพิจารณาการจัดชั่วโมงบรรยายเรื่อง “อุดมการณ์ ความฝัน มหิดลวิทย์ฯ กับสภาพความเป็นจริงของประเทศไทย” ในช่วงงาน Home Coming Week ประจำปี2551นี้

ข้าพเจ้า นายชเนษฎ์ ศรีสุโข เป็นนักเรียนเก่า โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ รุ่น12 รวมถึงทีมงานบรรยาย ใคร่ขอส่งรายละเอียดสำหรับเรื่องที่ข้าพเจ้าต้องการบรรยายในงาน Home Coming Week ประจำปี2551นี้ เป็นการบรรยายสำหรับคณาจารย์ ศิษย์ปัจจุบัน และศิษย์เก่า พร้อมเนื้อหาบางส่วน จุดประสงค์ ความสำคัญของการจัดบรรยายนี้ ให้ท่านผู้อำนวยการและผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ และพิจารณาตามเห็นควร

รายละเอียดระยะเวลาชั่วโมงการบรรยาย และวันที่เหมาะสม ให้อาจารย์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบได้ติดต่อประสานงานกับข้าพเจ้าอีกครั้งหนึ่ง

อนึ่ง หากพิจารณาอนุมัติให้จัดบรรยายเพิ่มเติมนอกเหนือจากช่วงงาน Home Coming Week ด้วย หากทีมงานสะดวกแก่โอกาสและเวลาอันเหมาะสม พวกเรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือโรงเรียนโดยไม่คิดค่าตอบแทน

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

 

นายชเนษฎ์ ศรีสุโข
โทร
08-xxxx-xxxx

อุดมการณ์ ความฝัน มหิดลวิทย์ฯ กับสภาพความเป็นจริงของประเทศไทย

ข้าพเจ้าเป็นนักศึกษาแพทย์ กำลังศึกษาในชั้นปีที่4 ที่โรงพยาบาลราชวิถี

ข้าพเจ้าเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ รุ่นที่12 ที่ทุกวันนี้ยังยืนหยัด ยึดมั่นในอุดมการณ์ของโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ต้องการ สืบสาน เจตนารมณ์ ของท่านผู้ก่อตั้ง-ดร.ธงชัย ชิวปรีชา และคิดว่า ในอนาคตจะได้ทำงานและส่วนร่วมในการผลักดันวงการวิทยาศาสตร์ ระดับประเทศไทย ให้เจริญรุ่งเรือง

ข้าพเจ้าเห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ และสิ่งที่โรงเรียนเราพยายามทำมาโดยตลอด ภายใต้การนำของท่านผู้อำนวยการ การผลักดันหัวรถจักรที่จะนำประเทศชาติไปสู่การพัฒนา ตามอุดมการณ์และความคาดหวัง ที่ท่านได้ย้ำแก่พวกเราทุกรุ่นมาโดยตลอด รวมถึงเป้าหมายที่ว่า

พัฒนาหล่อหลอมนักเรียนของโรงเรียนให้
1. มีจิตวิญญาณของความเป็นนักวิจัยนักคิดค้นและนักพัฒนาที่มีคุณธรรมและจริยธรรมและรักการเรียนรู้
2.มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีความรับผิดชอบต่อสังคมรู้จักใช้ความสามารถของตนเองเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมโดยไม่เห็นแก่ตัว
3. มีจิตสำนึกในเกียรติภูมิของความเป็นคนไทยมีความรักชาติบ้านเมืองและต้องการที่จะรับใช้ตอบแทนชาติบ้านเมืองตามความสามารถของตน
4. มีสุขภาพพลานามัยที่ดีรู้จักดูแลตนเองให้เข้มแข็งสมบูรณ์ทั้งกายวาจาและใจ
ทั้งนี้เพื่อพัฒนาไปสู่ความเป็นนักวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีความสามารถระดับมาตรฐานโลก (World Class) ที่มีจิตวิญญาณมุ่งมั่นพัฒนาประเทศชาติมีเจตคติที่ดีต่อเพื่อนร่วมโลกและธรรมชาตินักเรียนของโรงเรียนนี้ไม่น้อยกว่าร้อยละ70 มีศักยภาพในการศึกษาถึงระดับหลังปริญญาเอก

ปัจจุบันข้าพเจ้า นอกจากจะเป็นนักศึกษาแพทย์แล้ว ยังเป็นนักกิจกรรม นักคิด นักเขียน คอลัมนิสต์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นอกจากอุดมการณ์ที่จะทำให้ประเทศชาติเราเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์แล้ว ข้าพเจ้าคิดอยากจะพัฒนาประเทศชาติ ให้รุ่งเรือง ก้าวหน้า เพียบพร้อมในทุกด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต สาธารณสุข ฯลฯ และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือด้านคุณธรรม จริยธรรม และความสุขทางจิตใจ เพื่อให้ประเทศของเรากลายเป็นประเทศพัฒนา ทั้งทางวัตถุ และทางจิตใจ มีจุดยืนในสังคมโลกได้อย่างแข็งแกร่ง มั่นคง เมื่อถึงจุดนั้นแล้ว การนำหน้าทางวิทยาศาสตร์ของประเทศเราจะยิ่งส่งเสริมกัน สร้างสรรค์ประโยชน์แก่มนุษยชาติ และสังคมของเราได้มาก

ข้าพเจ้าเรียนจบมาได้สี่ปีแล้ว อยู่ในสังคม สังคมตามสภาพความเป็นจริงของประเทศไทย ซึ่งต่างกับสังคมอุดมคติสมัยเรียนที่โรงเรียน ข้าพเจ้าค้นพบความจริงของสังคมไทยที่ยังมีปัญหาอยู่มาก และเป็นสิ่งที่สมัยตอนเรียนโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ไม่มีผู้ใดสอน ข้าพเจ้าไม่เคยได้รับรู้และสัมผัสจริงมาก่อน

ทุกวันนี้ คนทั่วไป ตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงระดับคนมีการศึกษา ไม่ได้ให้ความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์กันมากนัก ด้วยสภาพการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบัน คนทั่วไปคิดเพียงแค่ทำอย่างไรให้มีฐานะ หาเลี้ยงปากท้องของตนได้ เพียงเท่านี้ก็เป็นเรื่องยากลำบากมากสำหรับหลายคนแล้ว ประชาชนจำนวนมากหาเช้ากินค่ำ บ้างไม่มีอันจะกิน คนส่วนใหญ่จึงมองและไขว่คว้าหาผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อความอยู่รอดขั้นพื้นฐาน เสียมากกว่าการมองถึงความเจริญก้าวหน้าของประเทศ

สำหรับผู้มีอำนาจในประเทศเรานั้น หลายท่านมิได้สนใจใยดีถึงผลประโยชน์ของประเทศ มิได้สนใจถึงประโยชน์ของสังคม และประชาชนอย่างแท้จริง นักการเมืองหลายท่านยินยอมขายชาติ ขายแผ่นดินเพื่อสนองความทะยานอยาก ต้องการบารมีทางการเมือง คอรัปชัน การทุจริตกระทำผิดกฎหมาย สิ่งเหล่านี้กระจายตัวทั่วตั้งแต่สังคมเล็กๆจนถึงระดับรัฐบาล เห็นได้ชัดว่าทุกวันนี้ นักการเมือง และชนชั้นปกครอง ผู้นำประเทศ ทำลายมาตรฐานคุณธรรม จริยธรรม ของสังคมไทยไปเสียหมด จนทำให้ประชาชนคนทั่วไปเห็นผิดเป็นชอบ อาทิเช่น เห็นการโกงแล้วรวยเป็นเรื่องปกติ, การที่เจ้าของสื่อมวลชนหลายแห่งชื่นชอบในการขายข่าวฆาตกรรม อาชญากรรมทางหน้าหนังสือพิมพ์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เห็นความชั่วเป็นเรื่องปกติ หลายคนคิดว่าทำชั่ว ทำผิดกฎหมาย แต่ได้เงินดี ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องเสียหายร้ายแรงใดใด ทั้งหมดนี้ล้วนทำให้ประเทศชาติเราอยู่ในภาวะวิกฤต

ซ้ำร้าย นักการเมืองก็ไม่ได้ส่งเสริมด้านการศึกษา และสติปัญญา ความเข้าใจให้แก่ประชาชน กลับดูถูกและอยากให้ประชาชนไม่ฉลาด จะได้ตามไม่ทันความคิดพวกตน ประชาชนทั่วไปก็มีปัญหาปากท้องมากจนไม่มีเวลาหาความรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง รวมถึงวิทยาศาสตร์ ที่เกี่ยวเนื่องกับชีวิตประจำวันของเราทุกอย่าง กลับถูกละเลย ส่วนหนึ่งก็เพราะผู้ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องไม่ได้ให้ความสนใจ ไม่ส่งเสริมนั่นเอง กลับไปมองแต่เรื่องผลประโยชน์ และการหาเสียงเสียเยอะกว่า ข้าพเจ้าจำได้แม่น สมัยข้าพเจ้าเรียนอยู่ที่โรงเรียน มีนักการเมืองมาหาเสียงที่โรงเรียนเราบ่อยครั้ง รวมถึงบางท่านมาหาเสียงด้วยการคิดแจกคอมพิวเตอร์ให้พวกนักเรียนคนละเครื่องเลยทีเดียว

สภาพสังคมเช่นนี้ การแข่งขันของคนปัจจุบัน หากอยากเป็นใหญ่ในหน้าที่การงาน หรือทำอะไรให้สำเร็จแล้ว ต้องใช้เงิน งบประมาณจำนวนมาก ความสามารถ รวมถึงที่ขาดไม่ได้ คือเส้นสาย สังคมไทยยังเต็มไปด้วยระบอบอุปถัมภ์ ศักดินาเก่าผสมผสานทุนใหม่ ที่ล้วนเล่ามองเห็นประโยชน์ของพวกพ้องตนสำคัญก่อนเสมอ อุดมการณ์สร้างสรรค์ชาติแบบท่านอาจารย์ ดร.ธงชัย จริงๆนั้น หาได้ยาก

ข้าพเจ้าเคยมีโอกาสได้คุยกับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ทราบว่าท่านได้เป็นผู้ผลักดันช่วยเหลือตอนก่อตั้งโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ของเรา ข้าพเจ้าได้ถามยืนยันกับ ท่าน ดร.ธงชัย ชิวปรีชาอีกครั้ง ในเวลาต่อมา พบว่าเป็นความจริง นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า แม้แต่การเปิดโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จนถึงการที่โรงเรียนเราสร้างสรรค์สิ่งดีดีแก่ประเทศชาติได้ในปัจจุบันนี้ ก็ต้องใช้เส้นสาย และกำลังภายในผลักดันมาก

ดังนั้นการจะทำสิ่งดีดีที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาตินั้น ไม่ได้ประกอบด้วยความสามารถทางด้านวิชาการ หรือด้านวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ประกอบเพียงคุณลักษณะความเป็นคนที่สมบูรณ์หรือลักษณะที่โรงเรียนสั่งสอนเพียงเท่านั้น การอยู่ในสังคมยังประกอบด้วยปัจจัยต่างๆที่สำคัญอีกมาก

ความมุ่งมั่นและอุดมการณ์พัฒนาประเทศชาติของพวกเราจะไม่สามารถสำเร็จได้เลย หากขาดซึ่งความเข้าใจในสภาพความเป็นจริงของสังคม ขาดทักษะการติดต่อประสานงานกับผู้อื่น ขาดความเป็นผู้นำ ขาดเส้นสาย สัมพันธภาพอันดี ขาดงบประมาณ รวมถึงที่สำคัญที่สุด คือขาด “โอกาส”ในการนำความสามารถของตนมาใช้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม

นอกจากนั้น ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียวในตอนนี้ ไม่สามารถตอบโจทย์การพัฒนาของประเทศชาติ และการแก้ไขปัญหาในภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นได้ครบถ้วน

ประเทศไทยยังต้องมีการพัฒนาควบคู่ในหลายด้าน ไปพร้อมๆกับการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ พวกเราต้องการการพัฒนาโดยรัฐบาล ผู้นำประเทศที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาประเทศชาติ ยึดประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าประโยชน์ส่วนตน และต้องเป็นผู้เข้าใจในความสำคัญ และส่งเสริมการศึกษา ส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ยากเกินความสามารถของพวกเรา ที่ในอนาคตเป็นผู้มีอำนาจ เป็นชนชั้นนำ ปกครองประเทศ และช่วยเหลือ สนับสนุนกันอย่างเต็มที่ ให้โอกาสแก่ผู้มีความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ได้แสดงออก และนำมาใช้เกิดประโยชน์จริง

การจะทำให้อุดมการณ์วิทยาศาสตร์เป็นที่รู้จัก สภาพสังคมไทยจำเป็นต้องพร้อม และเจริญในหลายๆด้านมากกว่านี้ก่อน เมื่อสภาพสังคมพร้อม ประชาชนอยู่ดีมีสุข ก็สามารถเข้าใจถึงความสำคัญของการพัฒนาประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ ได้ไม่ยาก

ณ ตอนนี้ ข้าพเจ้าเชื่อว่าศิษย์เก่าบางคนเมื่อจบจากโรงเรียนแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ไปมาก มุ่งหวังเพียงหาเลี้ยงปากท้องของตนก่อน แม้บางส่วนอุดมการณ์สูง ได้ศึกษาต่อทางด้านวิทยาศาสตร์ ได้ทุนไปต่างประเทศ แต่ในสภาพสังคมที่ยังมีปัญหาอยู่ คนเหล่านี้จบมาก็ไม่สามารถทำงานในประเทศไทยได้ ขาดงบวิจัย ขาดพลังผลักดัน สุดท้ายอาจเป็นการสมองไหล คือถูกต่างประเทศดูดไปทำงานที่เมืองนอก การที่ใช้อุดมการณ์มหิดลวิทยานุสรณ์ ศึกษาหาความรู้มาทั้งชีวิต ก็กลายเป็นสูญเปล่า

แม้ว่าโรงเรียนเราจะกลายเป็นโรงเรียนระดับโลก ที่สร้างสรรค์นักวิจัยจำนวนมาก แต่หากไม่ได้มีโอกาสทำหน้าที่ในเมืองไทย ไม่มีการอุปถัมภ์ งบประมาณที่จะสนับสนุนดูแลผู้คนเหล่านี้ ก็แย่

นั่นหมายความว่า แม้ดร.ธงชัย ท่านได้ทำการผลักดันวงการวิทยาศาสตร์ไทยตามแนวทางของท่านมาโดยตลอด เป็นพันธกิจที่ดีมากและยิ่งใหญ่ ประสบความสำเร็จก็มาก แต่หากมองในสภาพความเป็นจริงปัจจุบันแล้ว การที่พวกเราศิษย์ที่จบมา จะพยายามผลักดันการพัฒนาประเทศชาติด้วยวิทยาศาสตร์ต่อไปนั้น โดยเฉพาะในยุคสังคมเสื่อมลง กลียุคเช่นนี้นั้น ยังมีขอบเขตจำกัดอีกมาก และสิ่งเหล่านี้ นักเรียนของเราไม่รู้ จนกว่าจะได้ประสบพบด้วยตนเองก็สายไปเสียแล้ว

เรื่องเหล่านี้เป็นความจริง ที่พวกเราหลายๆคน ยังไม่เข้าใจ และทุกวันนี้หลายคนยังมีแนวทางการใช้ชีวิตหลังจบการศึกษาจากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ที่ไม่เหมาะสม หลายคนเรียนจบโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ออกมาแล้ว เต็มไปด้วยความฝัน ความมุ่งมั่น เพราะน้องๆหลายคน ตอนอยู่ในโรงเรียน อยู่ในสภาพสังคมที่ดีเกินไป เป็นสภาพสังคมสำหรับเด็กอัจฉริยะ และยอดคน เมื่อเรียนจบมา ทุกคนจึงจำเป็นต้องปรับตัวมากในสภาพความเป็นจริง ที่อาจไม่เหมือนสังคมอุดมคติแบบโรงเรียนเราพอขาดการเตรียมพร้อมแล้ว หลายคนละทิ้งความฝัน ความมุ่งมั่นอันดีไป

นักเรียนของเราจะมีวิธีการอย่างไรที่อยู่รอดในสังคม และทำตามอุดมการณ์ของพวกเราได้ เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าและทีมงานบรรยาย อยากนำเสนอ

ประเทศไทยตอนนี้ ทุกภาคส่วนไม่ได้อยู่ในสภาพดีเด่น ดีพร้อม ไม่ได้อุดมคติเหมือนโรงเรียนของเรา สิ่งที่นักเรียนแต่ละคนต้องเผชิญหลังจบการศึกษา และแนวทางการปรับตัว ในสังคมจริง อย่างไม่ละทิ้งความฝันของพวกเราต้องทำอย่างไร ทำอย่างไรเพื่อที่จะก้าวสู่ความเป็นผู้นำทางสังคม และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมให้ก้าวหน้าในทุกด้าน มิใช่เพียงด้านวิทยาศาสตร์อย่างเดียวเท่านั้น

ตลอดจนการมีชีวิตอยู่ในสังคมร่วมกับคนปกติ ที่ไม่ได้เข้าใจในหลักการวิทยาศาสตร์ อย่างไม่ละทิ้งอุดมการณ์วิทยาศาสตร์ หัวรถจักร พัฒนาประเทศ รวมถึงคอยเผยแพร่หลักการพัฒนาชาตินี้เมื่อมีโอกาส จะทำได้อย่างไร เป็นจริงได้แค่ไหน

หนทางการเปลี่ยนแปลงประเทศชาติด้วยวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ แต่หากพวกเราทุกคนร่วมมือกัน ด้วยความเข้มแข็งของสถาบันพวกเรา คือโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เราจะทำได้ ทั้งนี้ต้องเข้าใจในหลักการที่ว่าและสภาพความเป็นจริง ตรงกันเสียก่อน และมีจุดร่วม เห็นประโยชน์ในการสร้างความเป็นสถาบัน นั่นหมายถึงว่า แม้ว่า ดร.ธงชัย ชิวปรีชาจะไม่อยู่กับพวกเราแล้ว อุดมการณ์ ความคิด ความร่วมมือจะยังคงอยู่ได้อย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันครับ

คิดว่าด้วยความสำคัญ และจุดประสงค์ดังที่กราบเรียนมาให้อย่างคร่าวๆ น่าจะพอทำให้ หัวข้อการบรรยาย “อุดมการณ์ ความฝัน มหิดลวิทย์ฯ กับสภาพความเป็นจริงของประเทศไทย” ได้รับการพิจารณาครับ

สุดท้ายนี้ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ ดร.ธงชัย ชิวปรีชา มากครับ บุญคุณที่ท่านได้สร้างโรงเรียนแห่งนี้ และสอนสั่งพวกเรา ไม่สามารถทดแทนได้หมด ข้าพเจ้าเชื่อว่าทุกคนภาคภูมิใจในความเป็นมหิดลวิทยานุสรณ์ ที่ไม่มีที่ไหนในประเทศนี้เทียบเคียงได้ และสิ่งที่ท่านอาจารย์ธงชัยได้ริเริ่ม จะเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่การพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืน เจริญรุ่งเรืองในอนาคต

Posted in: บทความ, มหิดลวิทยานุสรณ์ Tagged: 2011, HCW, home coming days, MWIT, นักเรียนเก่า, บรรยาย, มหิดลวิทยานุสรณ์, ศิษย์เก่า, แพทย์

Search everything ค้นหา

Archives บทความ

Categories ประเภท

Recent Posts ประกาศล่าสุด

  • Be Original: Chanesd Srisukho (Health and Beauty Center by Doctor Gla)
  • ร่วมรำลึกถึงคุณย่าอัมพร ตันเจริญ
  • รายการหมอกล้าเล่า ถึงไหนแล้ว
  • หมอกล้าเล่า ตอนที่ 4 ความอ้วน, รายการหมอกล้า, ชเนษฎ์ ศรีสุโข
  • หมอกล้าเล่า ตอนแรก, TheOrigin, ชเนษฎ์ ศรีสุโข, หมอกล้าเล่า

Pages หน้า

  • About (Eng)
  • Introduction to Bloggla.com
  • Multimedia
  • ชเนษฎ์ ศรีสุโข เว็บไซต์ส่วนตัว หมอ ต้นกล้า Chanesd Srisukho
  • รู้จักคุณหมอชเนษฎ์
    • Education & Work
    • การศึกษาและงาน
    • เกียรติประวัติและกิจกรรม

เลือกอ่านบทความตามคำค้นหา

cpird MWIT กระทรวง กลอน กล้า การชุมนุม การเมือง กีดกัน จับฉลาก จิตวิทยา จิตเวช ชุมนุม ชเนษฎ์ ชเนษฎ์ ศรีสุโข ทักษิณ ธรรม นักการเมือง นักศึกษาแพทย์ บทความ บุญเชียร ประท้วง ประวัติ ประวัติศาสตร์ ปัญหา ปานเสถียรกุล พญ มหาวิทยาลัยรังสิต มหิดลวิทยานุสรณ์ รังสิต รุ่นพี่ วงการแพทย์ ศรีสุโข สาธารณสุข หมอ หมอกล้าเล่า อาจารย์ อาทิตย์ เพิ่มพูนทักษะ เรียนต่อ แพทยสภา แพทย์ แพทย์ชนบท แพทย์พี่เลี้ยง แพทย์รังสิต โรคจิต

Copyright © 2015 (A) Blog (of) Gla : Chanesd Srisukho.